เมนู

อรรถกถาวิปปยุตเตนวิปปยุตตปทนิทเทส


บัดนี้ เพื่อจำแนก วิปปยุตเตน วิปปยุตตบท พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงทรงเริ่มคำว่า "รูปกฺขนฺเธน" เป็นอาทิ. ในนิทเทสนั้น ธรรมเหล่า
ใด มีรูปขันธ์เป็นต้น ที่พระองค์ยกขึ้นแสดงไว้ในนิทเทสแห่งสัมปโยค.
วิปปโยคะ. ธรรมเหล่านั้นนั่นแหละทรงยกขึ้นแสดงในคำปุจฉาทั้งปวง. ส่วนบท
ทั้งหลายที่มาโดยลำดับแห่งบทอื่น ก็เพราะท่านรวมคำวิสัชนาอันเป็นทำนอง
เดียวกันไว้. บรรดาปัญหาเหล่านั้น บทใด ยกขึ้นแสดงเพื่อปุจฉา บทนั้น
วิปปยุตด้วยธรรมเหล่าใด บัณฑิตพึงทราบการจำแนกธรรมมีขันธ์เป็นต้น ด้วย
สามารถแห่งธรรมเหล่านั้น. ด้วยว่า ธรรมทั้งหลาย มีเวทนาเป็นต้น วิปปยุต
ด้วยรูปขันธ์ และรูปขันธ์ก็วิปปยุตด้วยธรรมเหล่านั้น. สำหรับนิพพานมีคติ
อย่างสุขุมรูปนั่นแหละ. รูปขันธ์นั้น วิปปยุตด้วยนามขันธ์ 4 ด้วยมนายตนะ 1
ด้วยวิญาณธาตุ 7 และด้วยธรรมทั้งหลายมีเวทนาเป็นต้นบางอย่างในธัมมา-
ยตนะและธัมมธาตุ. ในบททั้งปวง ก็นัยนี้ แล.
จบอรรถกถาวิปปยุตเตนวิปปยุตตปท

11. สังคหิเตนสัมปยุตตวิปปยุตตปทนิทเทส


[405] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วยสมุทยสัจ มัคคสัจ โดย
ขันธสังคหะ อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์
อาตนะ ธาตุ เท่าไร ? ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1
ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง. ประกอบ

ไม่ได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ
10 ธาตุ 10 และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[406] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วย อิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์
โดยขันธสังคหะ อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วย
ขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ไม่มีขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่ประกอบได้
ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์
4 อายตนะ 1 ธาตุ 7 และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[407] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วย สุขินทรีย์ ทุกขินทรีย์
โสมนัสสินทรีย์ โทมนัสสินทรีย์
โดยขันธสังคหะ อายตนสังคหะ
ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 7
และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง. ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์
อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 10 ธาตุ 10
และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[408] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วยอุเปกขินทรีย์ โดยขันธ-
สังคหะ อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์
3 อายตนะ 1 ธาตุ 2 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ 1
อายตนะ 10 ธาตุ 15 และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[409] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วย สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์
สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ อนัญญตัญญัสสามีตินทรีย์
อัญญินทรีย์ อัญญาตาวินทรีย์ อวิชชา สังขารเพราะอวิชชาเป็น
ปัจจัย ผัสสะเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ตัณหาเพราะเวทนาเป็น

ปัจจัย อุปาทานเพราะตัณหาเป็นปัจจัย กรรมภพ โดยขันธสังคหะ
อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ
1 ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง
ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ 1
อายตนะ 10 ธาตุ 10 และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[410] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วย ปริเทวะ โดยขันธสังคหะ
อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ
เท่าไร ? ไม่มีขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่ประกอบได้ ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์
อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ 4 อายตนะ 1 ธาตุ 7
และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
[411] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วยโสกะ ทุกข์ โทมนัส
โดยขันธสังคหะ อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วย
ขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1
บางอย่าง ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้
ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 10 ธาตุ 10 และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1
บางอย่าง.
[412] ธรรมเหล่าใดสงเคราะห์ได้ด้วยอุปายาส สติปัฏฐาน สัม-
มัปปธาน อัปปมัญญา อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมี
องค์ 8 ผัสสะ เจตนา อธิโมกข์ มนสิการ เหตุธรรม เหตุสเหตุ-
กธรรม เหตุเหตุสัมปยุตตธรรม อาสวธรรม อาสวสาสวธรรม
อาสวอาสวสัมปยุตตธรรม สัญโญชนธรรม คันถธรรม โอฆธรรม
โยคธรรม นีวรณธรรม ปรามาสธรรม อุปาทานธรรม กิเลสธรรม

กิเลสสังกิเลสิกธรรม กิเลสสังกิลิฏฐธรรม กิเลสกิเลสสัมปยุตตธรรม
โดยขันธสังคหะ อายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วย
ขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ธรรมเหล่านั้นประกอบได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1
ธาตุ 7 และประกอบได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง. ประกอบ
ไม่ได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ประกอบไม่ได้ด้วยขันธ์ 1 อายตนะ 10
ธาตุ 10 และประกอบไม่ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1 บางอย่าง.
จบสังคหิเตนสัมปยุตตวิปปยุตตปทนิทเทส

อรรถกถาสังคหิเตนสัมปยุตตวิปปยุตตปทนิทเทส


บัดนี้ เพื่อจำแนก สังคหิเตน สัมปยุตตะ วิปปยุตตบท พระผู้มี-
พระภาคเจ้าทรงเริ่มคำว่า "สมุทยสจฺเจน" เป็นอาทิ. ในนิทเทสนั้น ธรรม
เหล่าใด มีสมุทยสัจจะเป็นต้น ที่พระองค์ทรงยกขึ้นแสดงแล้ว ในนิทเทสแห่ง
สังคหิเตน สังคหิตบท ธรรมเหล่านั้นนั่นแหละทรงยกขึ้นแสดงในปุจฉาทั้งปวง
(ในที่นี้) ส่วนบททั้งหลายที่มาโดยลำดับแห่งบทอื่นนั้น เพราะรวมคำวิสัชนา
เป็นทำนองเดียวกัน. ในนิทเทสนั้น ธรรมเหล่าใดนับสงเคราะห์ได้ ด้วยบทที่
ยกขึ้นแสดงเพื่อปุจฉา โดยสงเคราะห์ด้วยขันธ์เป็นต้น สัมปโยคะ หรือวิปป-
โยคะของธรรมเหล่านั้น มีอยู่ด้วยธรรมเหล่าใด บัณฑิตพึงทราบการจำแนก
ขันธ์เป็นต้น ด้วยสามารถแห่งธรรมเหล่านั้น.
ในปัญหานั้น มีนัยดังนี้. ธรรมทั้งหลาย อันนับเนื่องในสังขารขันธ์
นับสงเคราะห์ได้ด้วยสมุทยสัจจะโดยการสงเคราะห์เป็นขันธ์เป็นต้นก่อน. ก็
ธรรมเหล่านั้น ยกเว้นสังขารขันธ์ทั้งหลายในธัมมายตนะและธัมมธาตุทั้งหลาย